บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือ (“บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงานเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงจะได้รับ อีกทั้งทรัพยากรบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรม และเป็นทรัพยากรที่มีค่าในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เจริญเติบโตและก้าวหน้า ดังนั้น คณะกรรมการ ผู้บริหาร และฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องจึงได้กำหนดนโยบายความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อใช้เป็นกรอบในการดูแลความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของโรมแรมในเครือ บริษัทฯ รวมถึงจัดให้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันความปลอดภัย อาทิ ถังดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน เป็นประจำทุกปี เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีสภาพที่พร้อมใช้งาน บริษัทฯ เชื่อเสมอว่าการลงทุนด้านความปลอดภัยและสุขภาพของบุคลากรหรือผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงของพนักงานและผู้เข้าพักในโรงแรม เนื่องจากกรณีอุบัติเหตุมักจะส่งผลกระทบทั้งในด้านชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของพนักงานและผู้เข้าพัก รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียรายอื่น ๆ จากสาเหตุนี้ SHR จึงมุ่งมั่นพัฒนางานด้านความปลอดภัย รวมทั้งเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
เป้าหมาย และตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- อุบัติเหตุในพื้นที่โรงแรมและสำนักงานใหญ่เป็นศูนย์
- การเสียชีวิตจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมาเป็นศูนย์
- สร้างความรู้ความเข้าใจในการตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานและการปฏิบัติงานอย่างถูกต้องตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่มาจากการปฏิบัติงาน โดยพนักงานทุกคนจะต้องผ่านหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อย่างน้อย 1 หลักสูตรต่อปี
- ตัวชีวัดอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น
อัตราความถี่ของการบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นหยุดงาน Lost Time Injury Frequency Rate: (LTIFR) |
| 2565 | 2566 |
| เป้าหมาย | อัตราจริง | เป้าหมาย | อัตราจริง* |
พนักงาน | - | - | 0.5 | 2.7 |
ผู้รับเหมา | - | - | 0.1 | 0 |
หมายเหตุ (* กรณีต่อ 1 ล้านชั่วโมงการทำงาน) / ชั่วโมงการทำงานรวมในปี 2566 = 5,654,947 ชม.
จำนวนการเสียชีวิตจากการดำเนินงาน (Fatality) ของพนักงานและผู้รับเหมา/คู่ค้า (Supplier/Vendor) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ของบริษัท |
| 2565 | 2566 |
| เป้าหมาย | อัตราจริง | เป้าหมาย | อัตราจริง |
พนักงาน | 0 | 0 | 0 | 0 |
ผู้รับเหมา | 0 | 0 | 0 | 0 |
โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ
โอกาส
- บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน แรงงาน ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่ธุรกิจ ในการปฏิบัติงานหรือใช้การใช้ประโยชน์จากโรงแรมและทรัพย์สินของบริษัทฯ โดยการดูแลให้พนักงานและผู้ร่วมงานมีสุขภาพและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีจะช่วยให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีและมีสมรรถนะทำงานที่สูง ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ พร้อมทั้งส่งเสริมสภาพจิตใจของพนักงานอีกด้วย ทำให้พนักงานมีความสุขและมีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น ซึ่งการที่พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพย่อมส่งผลดี ต่อการบริการลูกค้า และการมีจิตสำนึกในการดูแลชุมชนใกล้เคียง ส่งผลต่อการทำให้สังคมมีความมั่นใจในการมาใช้บริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น
ความเสี่ยง
- การละเลยในความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงาน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยตรง ทั้งนี้ การไม่ดูแลอาชีวอนามัยของพนักงานยังส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับจากพนักงานได้เช่นกัน อาทิ ความสะอาดและคุณภาพอาหารที่เสียหายจากการเจ็บป่วยของพนักงานในกลุ่มการทำอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ การละเลยการดูแลสุขภาพของพนักงานยังส่งผลต่อความผูกพันของพนักงานต่อบริษัทฯ รวมทั้งสภาพจิตใจของพนักงานซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของพนักงานและความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ร่วมงานในองค์กร
แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน จะต้องยึดถือและปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย ข้อกำหนด และมาตรฐานด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างเคร่งครัด
- บริษัทฯ จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อควบคุม ดูแล และป้องกันความสูญเสียในรูปแบบต่าง ๆ อันเกิดมาจาก อุบัติเหตุ อัคคีภัย การบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยจากการทำงาน การสูญหายหรือเสียหายในทรัพย์สิน การรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติงานไม่ถูกวิธี และความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดจนการรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย
- จัดให้มีกิจกรรมประชุมสัมพันธ์และสื่อสาร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ความรู้แก่พนักงาน ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้ทราบและเข้าใจกฎระเบียบ ขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติงาน และข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานด้วยความปลอดภัย อย่างเชี่ยวชาญ และสภาพแวดล้อม ตลอดจนการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกทำงานด้วยความปลอดภัย อนามัย และสภาพแวดล้อมให้เป็นวิถีในการดำเนินชีวิตประจำวันของพนักงาน
- จัดให้มีการทดสอบและการฝึกซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอและมีการทบทวนปรับปรุงเป็นประจำ
- จัดให้มีทรัพยากรที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการดำเนินการทำงานด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน
กิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ในปี 2566 ที่สนับสนุนด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
เพื่อให้บุคลากรมีสุขภาพกายใจที่ดีและมีความปลอดภัยในการทำงาน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัยสุขอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัทฯ โดยส่งเสริมผ่านโครงการ กิจกรรม การสื่อสาร และกฎระเบียบต่าง ๆ ได้แก่
- การจัดสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานให้ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย มีอุปกรณ์ดับเพลิงประจำจุดที่ทำงานตามความเหมาะสมและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
- การสื่อสารที่เกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัย การกำหนดให้พนักงานทุกคนดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ปฏิบัติงาน และสุขอนามัยพื้นที่ส่วนกลาง
- การตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี
- ระเบียบและสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงานที่เจ็บป่วย และสิทธิประโยชน์คุ้มครองสำหรับพนักงาน
- เงินช่วยเหลือพนักงานทุพพลภาพหรือเสียชีวิต
- การเปิดโอกาสให้บุคลากรรายบุคคลหรือรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อแสดงความคิดเห็นด้านการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานและวิธีการทำงานให้มีความปลอดภัย
- การออกประกาศภายในของบริษัทฯ เรื่องข้อห้ามเกี่ยวกับกัญชา กัญชง และกระท่อม
- การจัดหาชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ที่สถานที่ทำการของบริษัทฯ
- การพ่นน้ำยาทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อในกรณีพบเคสพนักงานติดเชื้อโควิด 19
- การฝึกซ้อมหนีไฟเป็นประจำทุกปี
- การจัดการฝึกอบรมหลักสูตรการดับเพลิงขั้นต้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่พนักงาน
การจัดอบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัย
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด มหาชน ได้จัดอบรมด้านความปลอดภัย โดยมีพนักงานของบริษัทฯ เข้าร่วมอบรมดับเพลิงในระดับหัวหน้างานขึ้นทั้งในแบบทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างความตระหนัก และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัยในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้สถานประกอบการ รวมถึงเรียนรู้วิธีการใช้อุปกรณ์ดับเพลิง
ความสะอาดและความปลอดภัยภายในโรงแรม
ในสถานการณ์ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อยู่นั้น โรงแรมยังมีคงปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA: Amazing Thailand Safety and Health Administration) เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เข้าพักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ใช้บริการตามมาตรการของหน่วยงานภาครัฐฯ โดยมีการกำหนดให้ร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวต้องได้รับตราสัญลักษณ์ตามโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยปัจจุบันโรงแรมที่บริษัทฯ บริหารจัดการและดำเนินการเองของ SHR ในประเทศไทยได้ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยทั้งหมด (ร้อยละ 100) โดยได้รับมาตรฐาน SHA+ จำนวน 1 แห่ง คือ โรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต และ SHA++ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ โรงแรมทราย เกาะสมุย เชิงมน และโรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย ทั้งนี้ โรงแรมของบริษัทฯ มี fire alarm ที่ได้รับการตรวจสอบการใช้งานเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ถังดับเพลิง รวมถึงระบบสปริงเกอร์ดับเพลิงหรือระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติในพื้นที่โรงแรมที่ทำงานเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้