S Hotels and Resorts

การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ “บริษัทฯ” ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานโดยเน้นการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เป็นธรรม รักษาข้อมูลความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้มีการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement) โดยให้สนับสนุนการจ้างงานชุมชนในพื้นที่ รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างสินค้า วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ความท้าทาย ความเสี่ยง และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทฯ ทำธุรกรรมจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้าจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องบริหารจัดการคู่ค้าตามนโยบายและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และนโยบายอื่นๆ ของบริษัทฯ อีกทั้ง บริหารความเสี่ยงคู่ค้าเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีการพิจารณาโอกาสและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสามปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) 2.ด้านสังคม (Social) และ 3. ด้านธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ซึ่งมีอิทธพลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้น บริษัทฯ จึงจัดให้มีฝ่ายงานที่รับผิดชอบด้านการจัดซื้อจัดจ้าง (ฝ่ายจัดซื้อฯ) ณ สำนักงานใหญ่ และ ณ โรงแรม เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามนโยบายบริษัทฯ มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ

ในการนี้ ฝ่ายจัดซื้อได้ทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารความเสี่ยงเพื่อจัดกลุ่มคู่ค้า รวมถึง วิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความเสี่ยง ทั้งความเสี่ยงในด้านอุปทาน (supply risk) และ ความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (sustainability risk) และประเมินศักยภาพของคู่ค้าของบริษัทฯ เป็นระยะ ๆ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยงของคู่ค้าให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและการดำเนินการของธุรกิจบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ เฝ้าระวังผลกระทบในด้านต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ อาทิเช่น ภัยทางธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อต่อปริมาณและราคาสินค้าในพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินการ เป็นต้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงจัดให้มีแผนสำรองสำหรับสินค้าและบริการบางประเภทที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ

กลยุทธ์การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การบริจัดการห่วงโซ่อุปทาน ดังนี้

  • บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • การทำสัญญาและการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เอารัดเอาเปรียบคู่ค้า
  • ให้ความสำคัญด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน
  • สนับสนุนให้คู่ค้าให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและการให้บริการด้วยความมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน มีต้นทุนที่สมเหตุสมผล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยยึดหลักปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด
  • ยึดหลักการทำธุรกรรมโดยปราศจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • ไม่สนับสนุนการทำธุรกรรมกับคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจที่ส่อไปในทางทุจริต เอารัดเอาเปรียบ และไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือลูกค้าของบริษัทฯ
  • บริหารความเสี่ยงเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง เช่น มีการวางแผนฉุกเฉินในกรณีที่คู่ค้าประสบปัญหาไม่สามารถส่งสินค้าได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

ความมุ่งมั่นและเป้าหมาย

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างกรอบการดำเนินงานด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ บริษัทฯ พยามส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และยกระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่บริษัทฯ ดำเนินการ ผ่านการจ้างงานและการซื้อสินค้าจากชุมชน โดยมีฝ่ายจัดซื้อดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมและเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการ ทั้งนี้ บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมาย

เป้าหมายด้านการบริหาห่วงโซ่อุปทาน
 ตัวชี้วัดเป้าหมายทำได้
1.การสื่อสารจรรณยาบรรณคู่ค้าเพื่อส่งเสริมให้แก่คู่ค้าปฏิบัติตาม100%100%
2.กาจัดงาน S and SHR Supplier Day เพื่อพบปะและสื่อสารกับคู่ค้าอย่างน้อย 1 ครั้ง/ปี1 ครั้ง/ปี
3.การทำ on-site ESG audit คู่ค้าอย่างน้อย 1 บริษัท/ปี1 บริษัท
4.กรณีร้องเรียนการฝ่าฝืนจรรณยาบรรณคู่ค้า0 กรณี0 กรณี
5.มูลค่าการจัดซื้อสินค้าและบริการจากชุมชนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท109 ล้านบาท

กรอบนโยบาย การบริหารคู่ค้า และกลุ่มคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน

นโยบายการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement Policy)

บริษัทฯ ได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวปฏิบัติด้านการจัดซื้อจัดจ้างของกลุ่มสิงห์ เอสเตท โดยมีการกำหนดบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ ให้สอดคล้องกับงานและกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง  

นโยบายกระบวนการจัดซื้อสีเขียว (Green Procurement Policy)

บริษัทฯ ให้ความสำคัญและส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมและการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนผ่านการจ้างงานและการจัดซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น อีกทั้ง กำหนดให้การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวต้องเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่ยุติธรรมและมีจริยธรรม ทั้งนี้ บริษัทฯให้ความสำคัญด้านการจัดซื้อผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอาหารที่สะอาดและถูกสุขลักษณะเพื่อนำมาสร้างสรรค์เมนูจากฟาร์มสู่โต๊ะ

ในการนี้ นโยบายกระบวนการจัดซื้อสีเขียวสนับสนุนให้คู่ค้าทุกประเภทหลีกเลี่ยงการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ต้องเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อมต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหรือเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ 

ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดให้ฝ่ายจัดซื้อและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาจัดซื้อสินค้าและบริการอย่างรอบคอบ โดยปราศจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

จรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ (Supplier Code of Conduct)

บริษัทฯ ได้กำหนดให้คู่ค้าทุกรายศึกษาและปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ (Supplier Code of Conduct) และนโยบายอื่น ๆ ของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด โดยเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส เป็นธรรม พร้อมทั้งสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทฯ บริหารจัดการความเสี่ยงของคู่ค้าโดยวิเคราะห์การปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ (Supplier Code of Conduct) และนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ อีกทั้ง จัดให้มีการประเมินคู่ค้า (ESG due diligence) ก่อนการทำธุรกรรม อาทิเช่น ประเด็นหรือผลกระทบใด ๆ ที่มีความเกี่ยวโยงกับการพัฒนาความยั่งยืน แนวทางการบริหารจัดการเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างชุมชนและสิ่งแวดล้อม แนวทางการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม การเคารพสิทธิมนุษย์ชน แนวทางการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น

นโยบายการบริหารสินเชื่อทางการค้ากับคู่ค้า

บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านการทำธุรกิจกับคู่ค้า และยึดมั่นความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยเน้นการบริหารธุรกิจให้เจริญเติบโตไปพร้อม ๆ กับคู่ค้า และปฏิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจและจรรยาบรรณคู่ค้าอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแนวทางการบริหารสภาพคล่องตามระยะเวลาสินเชื่อทางการค้า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรอบเวลา 30 วัน ยกเว้นกรณีพิเศษที่บริษัทฯ จำเป็นต้องขยายเวลาเพิ่มเติมให้กับคู่ค้า

ระยะเวลาการชำระเงินค่าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริง
25652566
30-60 วัน35 วัน35 วัน

นิยามความหมายของคู่ค้าหลักและคู่ค้ารอง

คู่ค้าหลัก (Critical Supplier) คือ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือผู้ให้บริการ รวมถึง ผู้ผลิตสินค้า และคู่ค้าหลักที่บริษัทฯ ทำธุรกิจโดยตรงและมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งหาคู่ค้ารายอื่นมาทดแทนได้ยาก หรือมีจำนวนน้อย โดยบริษัทฯ จัดให้คู่ค้าอยู่ในกลุ่ม Tier 1 ของรายชื่อคู่ค้าสำคัญของบริษัทฯ โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้

  1. ไม่สามารถเปลี่ยนคู่ค้า หรือหาคู่ค้ารายใหม่มาทดแทนได้ เนื่องจากคู่ค้ารายดังกล่าวมีทรัพยากรหรือสินค้าที่หายาก มีจำนวนจำกัด หรือ ไม่สามารถต่อรองเจรจา ณ เวลานั้นได้
  2. สินค้า หรือบริการของคู่ค้ามีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯมากเป็นลำดับดับต้น ๆ
  3. คู่ค้ามีปริมาณการค้าขายกับบริษัทฯที่สูงเป็นลำดับต้น ๆ ของจำนวนคู่ค้าทั้งหมด

คู่ค้ารอง (Non-critical Supplier) คือ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือผู้ให้บริการทั่วไป รวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง ผู้ผลิตสินค้า และคู่ค้ารองที่ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อาจจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย และอยู่ภายใต้กรอบที่บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ โดยการหาคู่ค้ารายอื่น ๆ ในตลาดมาทดแทน และไม่มีความเสี่ยงด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในระดับต่ำ

หลักเกณฑ์การพิจารณาคู่ค้าของบริษัทฯ

  1. คู่ค้าที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด
  2. คู่ค้าที่จำหน่ายสินค้า หรือให้บริการที่มีความสำคัญมากต่อการดำเนินการ และ
  3. คู่ค้าที่ไม่สามารถหามาทดแทนได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาคู่ค้าของคู่ค้า (Non-tier 1) โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน และคำนึงถึงปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงาน รวมไปถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเป็นสำคัญ เพื่อสรรหาคู่ค้าของคู่ค้าที่มีความสำคัญ (Critical Non-tier 1)

คู่ค้าประเภทต่าง ๆ ของ SHR
ประเภทคู่ค้าจำนวน% ของคู่ค้าทั้งหมด
1.คู่ค้าทั้งหมดที่มีการซื้อขาย (Total Supplier)1,738100.00%
2.คู่ค้าที่มีความสำคัญ (Critical Tier-1) (i.e. diesel suppliers)160.92%
3.คู่ค้าของคู่ค้าทีมีความสำคัญ (Critical non-tier 1)00
ข้อมูล ณ เมษายน ปี 2567 (2024)

การประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้า

บริษัทฯ ทำการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้าทุก ๆ ปี เพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้าของบริษัทฯมีขีดความสามารถในการจัดส่งสินค้าและให้บริการแก่บริษัทฯตามสัญญาที่ลงนามไว้ โดยบริษัทฯ ได้ทำการค้นหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทคู่ค้า การประเมินจรรยาบรรณคู่ค้า อีกทั้ง พูดคุยและสัมภาษณ์ (in-depth interview) ข้อมูลในเชิงลึกผ่านการประชุม ก่อนการลงนามทำธุรกรรม โดยผลจากการประเมินความเสี่ยงของคู่ค้า สามารถกำหนดจำนวนกลุ่มคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูงด้านความยั่งยืน ดังนี้

ประเภทคู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน
1.คู่ค้าที่มีความเสี่ยงสูง (High-Risk Tier 1 Suppliers)0
2.คู่ค้าของคู่ค้าทีมีความสำคัญ และมีความเสี่ยงสูง  (High-Risk Critical non-tier 1 Suppliers)0
ข้อมูล ณ เมษายน ปี 2567 (2024)