SHR ชูรายได้ไตรมาส 1 ปี 2565 โตกว่า 3 เท่าตัว มั่นใจธุรกิจฟื้นตัวโดดเด่นพร้อมวางเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 8,500 ล้านบาท

ห้องสื่อมวลชน

กรุงเทพ, 13 พฤษภาคม 2565SHR เผยผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อโดดเด่น รายงานรายได้ในไตรมาสที่ 1 ที่ 1.69 พันล้านบาท และคาดว่าธุรกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกไตรมาส ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก ดันให้รายได้ทั้งปี 2565 พุ่งแตะ 8.50 พันล้านบาท เติบโตเกือบเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา

โครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท โชว์รายได้จากการขายและให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ 1,690 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ จากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 261 ล้านบาท นับเป็นการรายงาน Adjusted EBITDA ที่เป็นผลกำไรสามไตรมาสติดต่อกัน สะท้อนภาพการฟื้นตัวของภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายและให้บริการของพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 78 ของรายได้รวมทั้งหมด โดยมาตรการผ่อนคลายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผนวกกับปริมาณความต้องการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ และสาธารณรัฐมอริเชียส ส่งผลให้รายได้จากการขายและให้บริการในไตรมาสดังกล่าวของพอร์ตโรงแรมในประเทศไทย และพอร์ตโรงแรม Outrigger เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อรายได้ในอนาคตที่จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เมื่อหลายประเทศยกเลิกข้อจำกัดในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ และการให้บริการเส้นทางบินต่างๆ สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นปกติจากทิศทางการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐในหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2565 เป็นต้นไป บริษัทฯ เริ่มเห็นสัญญาณบวกดังกล่าวจากสถิติการดำเนินงานในเดือนเมษายน ที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของทั้งพอร์ตโฟลิโอปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ 60 และคาดว่าจะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 สอดคล้องกับการทยอยเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ด้วยปัจจัยหนุนดังกล่าว ประกอบกับนโยบายด้านการบริหารจัดการและการลงทุนโรงแรมแบบกระจายความเสี่ยง ตลอดจนการยกระดับการบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยว การเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) จะทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ของปี 2565 ที่วางไว้ราว 8,500 ล้านบาท และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย

โรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า “เราคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ซึ่งรวมถึงโรงแรมของเราที่ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้ง 5 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ นอกจากนั้นแล้ว SHR ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกในการทำการตลาด การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการจองห้องพักของบริษัทฯ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการปรับปรุงสินทรัพย์และสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่างๆ ให้แก่โรงแรม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแขกผู้เข้าพักยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในปี 2565”

ผลการดำเนินงานของพอร์ตโรงแรมในโครงการครอสโร้ด เฟส 1 (CROSSROADS Phase 1) ที่มัลดีฟส์ ในไตรมาส 1 ปี 2565 เป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 74% ด้วยความโดดเด่นในรูปแบบและองค์ประกอบของโครงการที่แตกต่างจากรีสอร์ททั่วๆ ไป โดยสามารถรองรับการพักผ่อนในรูปแบบไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่สุดเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในมัลดีฟส์  ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ จุดแข็งในการออกแบบโครงการ และการทำการตลาดเชิงรุกของบริษัทฯ ที่สามารถหาลูกค้าหมุนเวียนจากหลากหลายภูมิภาค บริษัทฯ จึงคาดว่าโรงแรมทั้งสองแห่งบนโครงการครอสโร้ด เฟส 1 จะสามารถรักษาอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ในระดับสูงต่อเนื่องได้ทั้งปี พร้อมกับตั้งเป้าหมายในการเพิ่มอัตราค่าห้องพักต่อคืน หรือ ADR ให้เติบโตขึ้นได้ ผ่านกลยุทธ์การปรับปรุงห้องพักของโรงแรม และการเจาะลูกค้ากลุ่ม High Spending เช่น ชาวยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง เป็นต้น และหากว่าลูกค้ากลุ่มประเทศในเอเชียอย่าง จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลูกค้าหลักของมัลดีฟส์ เริ่มผ่อนปรนมาตรการให้ประชากรเดินทางออกนอกประเทศแล้ว SHR มีความมั่นใจว่าจะมาเสริมทัพให้โครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ มีศักยภาพในการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน ที่รองรับนักเดินทางได้ทุกกลุ่ม จากทั่วทุกมุมโลก

ด้านโรงแรมในสหราชอาณาจักร คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งสอดคล้องกับฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนั้น โรงแรมในสหราชอาณาจักรของบริษัทฯ ทั้งหมดเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ตามภูมิภาคในแหล่งท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ ซึ่งมี Pent-up Demand จากอุปสงค์การท่องเที่ยวในประเทศที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ผลการดำเนินงานของโรงแรมในสหราชอาณาจักรจะปรับดีขึ้นกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นระดับก่อนโควิด-19 ได้ พร้อมหนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนของพอร์ต ผ่านการปรับปรุงโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อปรับเพิ่มค่าห้องพักเฉลี่ยให้สูงขึ้น ซึ่งจะสะท้อนผ่านความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไปยิ่งไปกว่านั้น เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกของการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ของอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ที่คาดว่าจะฟื้นตัวทั้งใน สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และประเทศไทย โดยเฉพาะโรงแรมทรายลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนให้รายได้ในปี 2565 เติบโตขึ้น

เดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)

นายเดิร์ก กล่าวปิดท้ายว่า “ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน SHR ยังคงเดินหน้าตามแผนการเติบโตในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนของพอร์ตโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบการลงทุนใน 3 ปีข้างหน้ากว่า 2.8 พันล้านบาท สำหรับเสริมแกร่งกลยุทธ์หมุนเวียนและต่อยอดการลงทุน (Asset Rotation) ตลอดจนการลงทุนในการก่อสร้างโรงแรม SO/Maldives ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 2566 นอกจากนั้น SHR ได้วางแผนเพื่อขยายกิจการ โดยวางงบลงทุนสำหรับการควบรวมกิจการ (Merger and acquisition) เพิ่มเติม และยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ประกอบการและบริหารธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ของเราเอง รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติเพื่อขยายธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต”

# # #

เกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของ สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีพอร์ตโฟลิโอของโรงแรมและรีสอร์ทที่มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทคุณภาพสูงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก ทำให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท พัฒนาแบรนด์ไลฟ์สไตล์โฮเทลของตนเองขึ้นมาหลายแบรนด์ ทั้งยังได้ร่วมมือกับ-   แบรนด์ชั้นนำในธุรกิจโรงแรมอีกด้วย บริษัทฯ มีเป้าหมายที่สร้างมาตรฐานของการพักผ่อนและไลฟ์สไตล์ด้วยแพลตฟอร์มธุรกิจที่หลากหลายและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้ปรัชญาการทำธุรกิจแบบยั่งยืนและการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯที่  www.shotelsresorts.com หรือติดตามได้ที่ FacebookInstagram, YouTube, หรือ LinkedIn 

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
123 อาคารซันทาวเวอร์ส บี ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต 
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทร. +66 (0) 2058-9888
www.shotelsresorts.com

ประชาสัมพันธ์องค์กร 
ลลิตา สมบูรณ์สุข
โทร. +66 (0) 95-762-3547
Email: lalita.s@shotelsresorts.com

สำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
124 คอมมิวนิเคชันส: ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
กัญณัฎฐ์ ศรีชัยภัทรกุล (อ้อม)
โทร. +66 (0) 89-457-1180                                           
E-mail: kanyanut@124comm.com

บมจ. สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
อติโรจน์ โชติพรสวัสดิ์ (เต้)
โทร. +66 (0) 89-118-9110
Email: Atiroj.c@singhaestate.co.th