ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงานและผู้สมัครงาน

1. เกี่ยวกับเรา

บริษัท เอส โฮเทล พีพี ไอส์แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ว่าจ้างและผู้มีสถานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทจะรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ถูกเก็บรวบรวมในระหว่างกระบวนการสรรหาและกระบวนการจ้างงานและในระหว่างจ้างงาน

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงานและผู้สมัครงานฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ รวมถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวที่ท่านมี รวมถึงความคุ้มครองของกฎหมายต่อตัวท่าน

บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ตลอดเวลา โดยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกประกาศไว้ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

“บริษัท” หมายถึง เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอส โฮเทล พีพี ไอส์แลนด์ จำกัด

“กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Properties)” หมายถึง โรงแรม รีสอร์ท สิ่งอำนวยความสะดวก และ พื้นที่ค้าปลีกที่เราเป็นเจ้าของและดำเนินการ ปัจจุบัน เรามีทรัพย์สินในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ผู้บริหารโรงแรม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงภายใต้แบรนด์ดังต่อใบนี้;

  • ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives)
  • ฮาร์ดร็อค โฮเต็ล มัลดีฟส์ (Hard Rock Hotel Maldives)
  • สันติบุรี  เกาะสมุย (Santiburi Koh Samui)
  • ทุกโรงแรมภายใต้แบรนด์ ทราย (All properties under SAii Resorts)

“ท่าน” หมายถึง ผู้สมัครงานของบริษัท พนักงานประจำ พนักงานทดลองงาน และพนักงานตามสัญญา ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณอายุแล้ว

“พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป” หมายถึง The General Data Protection Regulation (EU) 2016/679

“ประกาศ” หมายถึงประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงานและผู้สมัครงาน ของบริษัท เอส โฮเทล แอนด์
รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลใดๆ ที่ข้อมูลใดๆทำให้สามารถระบุตัวตนนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น
ซึ่งบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวทั้งทางตรงและทางอ้อม จากแหล่งที่มาดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลจากการสมัครงาน เช่น ข้อมูลประวัติส่วนตัว จากแหล่งข้อมูลออนไลน์หรือจากแหล่งอื่น (อาทิ เว็บไซต์หางาน นายหน้าหางาน)
  • ข้อมูลที่ได้จากการพูดคุยในระหว่างกระบวนการสรรหา
  • ข้อมูลจากเอกสารที่ใช้ในการระบุตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาพาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่
  • ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน เช่น จากการที่ท่านเข้าถึงและใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของบริษัท
  • ข้อมูลที่ได้จากการกรอกแบบฟอร์มใบสมัครงานของบริษัทในกระบวนการจ้างงาน เช่น ข้อมูลแบบฟอร์มการนำเสนอผลประโยชน์ (เงินเดือน)
  • ข้อมูลที่ได้จากการตอบรับจากท่านในระหว่างกระบวนการสรรหาและการจ้างงาน เช่น จากการสัมภาษณ์ จากการประชุมหรือการประเมินผลอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิด CCTV
  • ในบางกรณีบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น ข้อมูลจากรายชื่อผู้อ้างอิงที่เป็นอดีตนายจ้างของท่าน ข้อมูลจากผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติการจ้างงาน

ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาทิเช่น

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด สถานที่เกิด เพศ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขบัญชี หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ สถานภาพการสมรส สถานภาพทางทหาร ลายเซ็น
  • ข้อมูลรายละเอียดครอบครัว เช่น ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ อายุ อาชีพ/ตำแหน่ง ที่อยู่ สถานที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ ของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลคู่สมรส ข้อมูลบุตรรวมทั้งข้อมูลบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  • ข้อมูลรูปภาพที่สามารถระบุตัวตนได้ อันได้แก่ ข้อมูลภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของท่าน และ/หรือทรัพย์สินของท่าน ที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมได้กระบวนการสรรหาและการบวนการจ้างงานและระหว่างจ้างงาน รวมทั้งภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด กล้องถ่ายภาพ เมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ภายในอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก พื้นที่ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมหรือ สถานที่ที่อยู่ในความดูแลของบริษัทและในงานกิจกรรม งานประชุม หรืองานสัมมนาต่าง ๆ ที่จัดขึ้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ (น้ำหนัก ส่วนสูง กรุ๊ปเลือด ข้อมูลความบกพร่องของร่างกาย) และข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data) ได้แก่ แบบจำลองลายนิ้วมือ
  • ข้อมูลคุณสมบัติและการศึกษา เช่น ข้อมูลประวัติการศึกษา ความสามารถทางด้านภาษา ประวัติการฝึกอบรม ความสามารถพิเศษอื่น ๆ
  • ข้อมูลประวัติการทำงาน (Employment Data): เช่น ประสบการณ์การทำงาน รายละเอียดบริษัทที่เข้าทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาที่ทำงาน สวัสดิการและรายได้อื่นที่ได้รับ
  • ข้อมูลบุคคลที่สามารถอ้างอิงถึงความสามารถของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใด ๆ เช่น หมายเลขทะเบียนรถ เป็นต้น

ข้อมูลรายละเอียดในสัญญา: ข้อกำหนดและเงื่อนไขการจ้างงานของท่าน

  • ข้อมูลตำแหน่ง สังกัด เงินเดือน วันที่สัญญามีผลบังคับใช้ รายละเอียดเกี่ยวกับวันทำงานและชั่วโมงการทำงาน รวมถึงการทำงานล่วงเวลา และข้อมูลเกี่ยวกับวันที่กำหนดจ่ายเงินเดือน
  • รายละเอียดข้อตกลงในระหว่างที่ท่านปฏิบัติงานกับบริษัท กรณีที่บริษัทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงโยกย้ายหน้าที่ กรณีที่ปฏิบัติภารกิจทั่วไปหรืองานพิเศษต่าง ๆที่ได้รับมอบหมาย
  • รายละเอียดข้อตกลงที่จะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในการทำงาน รวมถึงการไม่เปิดเผยข้อมูล เอกสาร หรือข้อมูลอื่นใดอันเป็นข้อมูลธุรกิจการค้า ที่ท่านได้ล่วงรู้ระหว่างการการจ้างงาน หรือสิ้นสุดงาน รวมถึงบทกำหนดโทษ
  • รายละเอียดเกี่ยวกับโทษทางวินัยหรือบอกเลิกสัญญา
  • รายละเอียดการให้คำยืนยันที่ไม่เคยเป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษ

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เพื่อการสรรหา ว่าจ้าง การทำธุรกรรม กิจกรรม และ/หรือรายการใด ๆ ตามความประสงค์ของท่าน และ/หรือให้บรรลุซึ่งจุดมุ่งหมายของบริษัท บริษัทอาจเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายในกลุ่มเครือกิจการเฉพาะเมื่อมีวัตถุประสงค์ที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์

  • เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาจ้างหรือสัญญาอื่นใดที่มีกับท่าน
  • เพื่อบริหารจัดการกระบวนการสรรหาและกระบวนการจ้างงาน
  • เพื่อดำเนินงานและ/หรือบริหารงาน เกี่ยวกับสิทธิของท่าน อันได้แก่ สิทธิที่จะได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าล่วงเวลา และการให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การทำประกันสุขภาพ การเบิกค่าใช้จ่ายภายใต้สวัสดิการพนักงาน สิทธิในการลา การได้รับโบนัส และสวัสดิการอื่น ๆ ตามสัญญาจ้าง
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามการปฏิบัติงาน เช่น การบันทึกเวลาการเข้างาน การปฏิบัติตามวินัย และการมีโทษทางวินัย เป็นต้น ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน
  • การดำเนินการเก็บบันทึกเกี่ยวกับการลาประเภทต่าง ๆ เช่น ลาป่วย ลาคลอด ลาพักร้อน ลาบวช เป็นต้น เพื่อให้การบริหารจัดการบุคลากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิ และเพื่อตรวจสอบสิทธิและการใช้สิทธิของท่านตามสัญญาจ้าง
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทอันเกี่ยวข้องกับพนักงาน เช่น เพื่อตรวจสอบสิทธิในการทำงานในประเทศไทย เพื่อทำการยื่นภาษีให้กับสรรพากร เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้ท่านสามารถลางานได้ตามกฎหมาย รวมถึงการได้รับค่าแรง ค่าล่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมอบหมายให้แก่บริษัท
  • เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท เช่น เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา (การยืนยันตัวบุคคลและการติดต่อ การประเมินเพื่อให้คะแนนผู้สมัคร ประเมินความเหมาะสม เพื่อใช้ในการตัดสินใจจ้างงาน) เพื่อทำการเก็บบันทึกประเมินผลการปฏิบัติงานของท่าน รวมทั้ง การตรวจสอบภายใน และงานธุรการต่าง ๆ
  • เพื่อบันทึก/แก้ไขข้อมูลของท่าน (รวมถึงข้อมูลการติดต่อกรณีฉุกเฉิน) ได้อย่างถูกต้อง เป็นปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงเพื่อติดต่อไปยังบุคคลตามที่ได้ให้ข้อมูลไว้ ในกรณีฉุกเฉิน
  • เพื่อวัตถุประสงค์ภายในอันเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนา เพื่อพัฒนาบุคลากรและจัดฝึกอบรม ปรับปรุงการปฏิบัติงาน รวมถึงปรับปรุงการจ้างงาน
  • เพื่อการป้องกันกิจกรรมของท่านซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการละเลยหน้าที่ รวมถึงการบันทึกกระบวนการทางวินัย เพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิ หรือการกำหนดมาตรการทางวินัยเมื่อจำเป็น
  • เพื่อป้องกัน ลดความเสี่ยง และรักษาความปลอดภัยในบริเวณอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีกพื้นที่ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมหรือ สถานที่ที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ที่ได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเมื่อมีการเข้าถึงพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
  • เพื่อวัตถุประสงค์ภายในของบริษัทหรือเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์บริษัทแก่บุคคลภายนอก ผ่านช่องทางสื่อสิ่งพิมพ์หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท ที่บริษัทเก็บรวบรวมภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากในงานกิจกรรม งานประชุม หรืองานสัมมนาต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่บริษัทเก็บรวบรวมได้จะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า
  • เพื่อให้การอ้างอิงตามคำขอของท่าน สำหรับพนักงานปัจจุบันหรืออดีตพนักงาน
  • ในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้เท่านั้น
  • พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data or Sensitive Personal Data) ข้อมูลประเภทนี้จะต้องได้รับการระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งบริษัทจะไม่ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลอ่อนไหวของท่าน หากไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย ซึ่งหากบริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยนั้นจะกระทำเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  • เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ข้อมูลความพิการ และประวัติการข้องเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ข้อมูลประวัติการทุจริตหรือการก่ออาชญากรรม เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาใบสมัคร ตัดสินใจจ้างงาน การคัดกรองใบสมัคร และเพื่อการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตและอาชญากรรม
  • ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลแบบจำลองลายนิ้วมือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามการปฏิบัติงาน โดยการตรวจสอบเวลาการเข้าทำงานของท่าน และเพื่อเข้าสู่บริเวณอาคารสำนักงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อการคุ้มครองแรงงงานและสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
  • ข้อมูลเชื้อชาติ ศาสนา เพื่อรักษาและส่งเสริมความเสมอภาคในสถานที่ทำงานโดยการให้โอกาสอย่างเท่าเทียม

4. การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกนำส่งไปยังบุคคลภายนอกซึ่งอยู่ต่างประเทศ หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เท่าเทียมกับประเทศไทย ดังนั้นบริษัทจะทำให้มั่นใจก่อนโอนข้อมูลอย่างเหมาะสมตามมาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายของประเทศไทย และการโอนข้อมูลนั้นจะกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย อันได้แก่เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม เพื่อสาธารณะประโยชน์หรือภารกิจของรัฐ หรือตามที่ได้รับความยินยอมจากท่าน และในบางประเทศอาจมีข้อกำหนดทางกฎหมาย ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น หน่วยงานภาษีอากรในต่างประเทศ สถานทูตไทยในต่างประเทศเพื่อดำเนินการยื่นขอรับใบอนุญาตทำงานในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะต้องมั่นใจว่าจะเปิดเผยให้กับหน่วยงานที่มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

5. รายละเอียดการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับ หากมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่บุคคลที่มีสิทธิ์เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทอาจจะมีการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดในประกาศฉบับนี้

  • บริษัทในเครือ และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจและบุคคลที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนของบริษัท
  • บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ได้แก่ พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง อาทิ ธนาคาร ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ บริษัทประกันภัยสุขภาพ บริษัทประกันการเดินทาง โรงพยาบาล ผู้จัดการกองทุน ผู้จัดทำงานทะเบียนบัญชีเงินเดือน ผู้จัดทำงานภาษีอากร ตัวแทนยื่นขอวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงาน บริษัทที่ปรึกษา บริษัทให้บริการระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการฝึกอบรม บริษัทให้บริการรับเหมาก่อสร้าง
  • หน่วยงานของราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานนั้น ๆ เช่น กรมสรรพากร หน่วยงานภาษีอากรในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
  • เมื่อบริษัทมีการเปิดเผยหรือข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเข้าทำข้อตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด และบุคคลภายนอกก็มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามสัญญารักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับบริษัท

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ โดยสามารถยื่นคำร้องใช้สิทธิตามช่องทางการติดต่อที่บริษัทได้ให้ไว้ในหัวข้อ “11. ติดต่อบริษัท” บริษัทจะดำเนินการตามคำร้องขอโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและความซับซ้อนของคำร้องขอ

  • ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอม โดยบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุด เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
  • ท่านมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ ยกเว้นในกรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูล ขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลที่บริษัทส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
  • ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ หรือเมื่อท่านถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ คัดค้านการประมวลผลทั้งการตลาดแบบตรงและอื่น ๆ มีการประมวลผลอันมิชอบด้วยกฎหมาย และกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
  • ท่านมีสิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลของท่านและบริษัทจะทำการหยุดประมวลผล ในกรณีที่ การประมวลผลไม่จำเป็นอีกต่อไปแต่การเก็บรักษาไว้ยังคงจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือข้อมูลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง หรืออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า กรณีที่ท่านมีความประสงค์ไม่ให้มีการประมวลผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เท่าที่จำเป็น
  • ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติ เว้นแต่การดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัท ทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากต้องการส่งคำขอสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าของข้อมูล (DSAR) โปรดดำเนินการโดยคลิกที่ลิงก์นี้เพื่อ กรอกแบบฟอร์มคำขอ

7. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสม การดูแลปกป้องด้านกายภาพ การบริหารจัดการและด้านเทคนิค เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญเสีย การนำไปใช้ในทางที่ผิด รวมทั้งการเข้าถึง การเปิดเผย
การเปลี่ยนแปลงและการทำลายโดยไม่ได้รับอนุญาต

ในกรณีที่บริษัทได้ให้บุคคลภายนอกทำการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ การจัดสรรทรัพยากรหรือบริการ หรือให้บริการอื่นใดแก่บริษัท บริษัทอาจกำหนดให้มีข้อตกลงรักษาความลับ และ/หรือข้อตกลงให้ประมวลผลข้อมูลอย่างสอดคล้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทได้จัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และจะแจ้งให้ท่านทราบโดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ แม้มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด แต่การรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตนั้นยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย บริษัทจึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนของท่านที่เปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้

8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลตามที่ได้กล่าวไว้ในประกาศฉบับนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพนักงานของบริษัท บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งปีนับจากวันที่ท่านเข้าสมัคร และในกรณีที่ท่านสิ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทไปแล้ว บริษัทจะจัดเก็บตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท และข้อกำหนดของกฎหมายอย่างเคร่งครัด

9. ความถูกต้องของข้อมูลของท่าน

เพื่อให้ข้อมูลของท่านที่บริษัททำการเก็บรวบรวมไว้นั้นถูกในไปประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันที่สุด ดังนั้นกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดแจ้งให้บริษัททราบเพื่อทำการแก้ไข โดยการติดต่อตัวแทนฝ่ายบุคคล (Human Resources) หรือ แก้ไขข้อมูลของตนเองผ่านฝ่ายทรัพยากรบุคคลอย่างสม่ำเสมอ

10. ความรับผิดชอบของท่านต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีหน้าที่ในการตรวจสอบให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ให้ไว้กับบริษัทนั้นมีความถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน โดยท่านจะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยเร็วที่สุดในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

ท่านมีหน้าที่ที่จะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้สัญญาจ้างงานที่มีกับบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรายงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิลางานตามกฎหมาย รวมถึงการให้ข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับการทำงานโดยสุจริต ซึ่งการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีผลต่อการใช้สิทธิทางกฎหมายของท่านได้

ข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภท เช่น ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิในการทำงานในประเทศ หรือข้อมูลทางการเงินของท่าน อาทิ เลขบัญชีธนาคาร ท่านจะต้องให้ข้อมูลเหล่านั้นแก่บริษัท เนื่องจากเป็นการจำเป็นสำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือเพื่อใช้ในการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับท่าน หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลเหล่านี้กับบริษัทได้อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานได้ รวมถึงยังเป็นการขัดขวางความสามารถของบริษัทในการจัดการเกี่ยวกับสิทธิและภาระผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาจ้างงาน

11. ติดต่อเรา

หากท่านต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือหากมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางต่อไปนี้

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)

123 อาคารซันทาวเวอร์ บี ชั้น10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์: +66 (0) 2058 9888

อีเมล: dpo@shotelsresorts.com