“ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” ของ “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” ร่วมสนับสนุนโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศ “หมู่เกาะพีพี” อาทิ การขยายพันธุ์ของปะการัง โครงการการเพาะพันธุ์สัตว์ทะเล และกิจกรรมการเรียนรู้มากมาย
กรุงเทพฯ ประเทศไทย: อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นหนึ่งในระบบนิเวศเขตร้อนที่โดดเด่นและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเมื่อฮอลลีวูด (Hollywood) ได้เลือก “อ่าวมาหยา” อันเปรียบเสมือนสวรรค์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเกาะพีพีเล เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ "เดอะ บีช" (The Beach) ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหาดที่สวยที่สุดบนโลก
หลังความสำเร็จของภาพยนตร์ระดับโลก “อ่าวมาหยา” คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งต้องปิดพื้นที่อ่าวมาหยาในปี พ.ศ. 2561 เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผู้คนและเรือ รวมถึงฟื้นฟูแนวปะการังสู่ความสมบูรณ์ และช่วยให้พันธุ์สัตว์น้ำหลากหลาย รวมทั้งฉลามครีบดำได้ปรากฎให้เห็นอีกครั้ง ปัจจุบัน “อ่าวมาหยา” ได้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ด้วยการจำกัดจำนวนเข้าชม และดำเนินการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
นับเป็นความภูมิใจของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village) ไลฟ์สไตล์รีสอร์ตแนวรักษ์สิ่งแวดล้อมบนเกาะ พีพีอันงดงาม ในเครือของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (S Hotels and Resorts Public Company Limited: SHR) ผู้นำด้านการบริหารงานโรงแรมและรีสอร์ต ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นบ้านของ “อ่าวมาหยา” อันโด่งดัง โดย ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre) ที่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ต ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของ
การอนุรักษ์และการศึกษาฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่บริเวณโรงแรมและอุทยานฯ ซึ่งศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ เกี่ยวกับระบบนิเวศสิ่งมีชีวิตทางทะเล ประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการทั้งในร่มและกลางแจ้ง แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ ห้องฉลาม ห้องเกาะพีพี ห้องปลาการ์ตูน และห้องออดิโทเรียมที่นำเสนอความน่าทึ่งของโลกใต้น้ำ วงจรชีวิต และลักษณะพฤติกรรมของสัตว์น้ำสายพันธุ์พื้นเมืองหลากหลาย ได้รับการดูแลโดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์ที่สำคัญมากมาย อาทิ การขยายพันธุ์ปะการัง การปลูกป่าชายเลน และกิจกรรมการทำความสะอาดชายหาด
“ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” ยังประสบความสำเร็จอย่างมากในการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน และปล่อยกลับคืนสู่มหาสมุทรกว่า 100 ตัวและเมื่อเร็ว ๆ นี้ ร่วมมือครั้งสำคัญกับ ศูนย์ชีววิทยาทางทะเลภูเก็ต (Phuket Marine Biological Center : PMBC) ภายใต้โครงการ “SOS” (Save Our Sharks) เพื่อเพาะพันธุ์ ดูแลอนุบาล “ฉลามกบ” กว่า 40 ตัว ในบ่ออนุบาลพันธุ์ปลาฉลาม นับเป็นครั้งแรกที่ PMBC ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนที่อยู่นอกเหนือการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ โดย ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ได้เริ่มปล่อยฉลามกบสู่ท้องทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” ได้ทำงานร่วมกันกับชุมชนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลในรูปแบบต่าง ๆ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 นักชีววิทยาทางทะเลของศูนย์ฯ ได้ช่วยชีวิตและดูแล “ปลาสิงโต” ที่ได้รับบาดเจ็บและถูกพบโดยชาวบ้านในพื้นที่ และปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในอีก 5 เดือนต่อมา จากนั้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ร่วมมือกับ สิงห์ เอสเตท (Singha Estate) และ อีอีซี ประเทศไทย (EEC Thailand) จัดแคมเปญ “SeaYouTomorrow Camp: Fighting Climate Crisis” ซึ่งเป็นกิจกรรมการศึกษาที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวในการสร้างความตระหนักรู้ถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัญหาเกี่ยวกับ Carbon Footprint และภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งโลกกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท มุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ SDG14 'Life Below Water' ซึ่งมุ่งเน้นไปที่มหาสมุทร ทะเล และแม่น้ำ รวมถึงขับเคลื่อนการอยู่ร่วมกันของกิจการ ชุมชนท้องถิ่น และธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ยังมีส่วนร่วมในการจัดการขยะบนเกาะพีพีดอน โดยเก็บขยะได้มากกว่า 8,000 กิโลกรัมในปี พ.ศ. 2564 รวมทั้งยังได้ช่วยเหลือชุมชนในท้องถิ่นมากกว่า 30 ครอบครัว เป็นผู้ให้บริการเรือหางยาวโดยสารสำหรับแขกของรีสอร์ต รวมถึงยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์แบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ของรีสอร์ต เช่นเดียวกันกับโรงแรมในเครือ ทราย (SAii) ทุกแห่งทั่วโลก
เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ (Dirk De Cuyper) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “ที่ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เรารับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างจริงจัง การท่องเที่ยวอย่างไร้การควบคุมในอดีตสร้างผลกระทบต่ออ่าว
มาหยาอย่างมหาศาล แต่หลังจากมีการปิดพื้นที่ไปเพียง 3 ปี ธรรมชาติก็ได้แสดงให้ถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยคืนความสวยงามและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์กลับมาให้เราได้ชื่นชมอีกครั้ง ซึ่งเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทในการอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และได้เผยความสวยงามของท้องทะเลแห่งนี้ให้แขกของเราได้เห็นเช่นกัน”
“ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” รีสอร์ตสไตล์ทรอปิคอล ที่เป็นรีสอร์ตเรือธงในเครือ “ทราย รีสอร์ต” (SAii Resort) ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 180 ไร่ มีชายหาดที่ทอดยาวไปตามทะเลอันดามันสีฟ้าใสถึง 800 เมตร ให้บริการห้องพักหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบบ้านพักสไตล์บังกะโลแบบดั้งเดิม ไปจนถึงพูลวิลล่าสุดหรู ภายในรีสอร์ตประกอบด้วยความสุขสำหรับวันพักผ่อนมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ริมชายหาด รวมถึงร้านอาหารหลากหลาย อย่าง “Mr. Tomyam” (มิสเตอร์ต้มยำ) ให้บริการอาหารไทยแบบฟิวชั่น พร้อมครัวแบบเปิด “Api” (อาปี) ร้านอาหารนานาชาติ “bean/Co” (บีนโค) คาเฟ่สุดเก๋ริมทะเล และ “Lèn Forest Spa” (เล่น ฟอเรสต์ สปา) ที่จะมอบความผ่อนคลายอย่างลึกล้ำ ท่ามกลางทิวเขาและธรรมชาติอย่างแท้จริง และประสบการณ์เลือกผสมเครื่องหอมกลิ่นจากธรรมชาติที่หลากหลายเพื่อใช้ระหว่างการเข้าพักด้วยตนเอง (bathroom amenities) ได้ที่ “M.I.Y Aroma Lab” นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลโรงแรมสีเขียว ระดับทอง (Gold Level Green Hotel Award) จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการอย่างยั่งยืน
นักเดินทางที่ต้องการสำรวจระบบนิเวศอันน่าทึ่งของเกาะพีพี สามารถจอง "แพ็คเกจ "Marine Discovery" ของ “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2565 เอาใจครอบครัวให้ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ทริปพักผ่อนที่รวมทั้งห้องพักและอาหารเช้าทุกวัน พร้อมทริปท่องเที่ยวเกาะแบบครึ่งวันที่จะพาคุณไปสัมผัสความงามของ “อ่าวมาหยา” โดยเรือหางยาว (สำหรับ สำหรับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เด็ก 2 ท่าน) ส่วนลด 25% สำหรับอาหาร เครื่องดื่ม และสปาทรีตเมนต์ตลอดการเข้าพัก สิทธิ์การเข้าใช้บริการฟิตเนสเซ็นเตอร์ สนามเทนนิส และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด พร้อมเพลิดเพลินและเรียนรู้เรื่องราวของท้องทะเลที่ “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการขยายพันธุ์ของปะการัง การเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน และปลาฉลามกบ ราคาเริ่มต้นเพียง 4,100 บาทต่อคืน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ที่ www.shotelsresorts.com หรือติดตามข่าวสารต่าง ๆ บน Facebook, Instagram, YouTube, LinkedIn
เกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (S Hotels & Resort: SHR)
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (S Hotels and Resorts Public Company Limited: SHR) บริษัทในเครือของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมและลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับนานาชาติที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงบันดาลใจจากความเป็นไทย บวกรวมกับผลงานระดับนานาชาติที่กว้างขวางและได้มาตรฐานระดับโลก รวมถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารและการลงทุนของโรงแรมและรีสอร์ตคุณภาพสูงในจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก SHR ได้สร้างคอลเลกชันของแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของตัวเอง ในขณะที่ยังเป็นพันธมิตรกับ แบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมการบริการ โดยมีเป้าหมายที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการพักผ่อนและการใช้ชีวิต ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจที่หลากหลาย และสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย บนพื้นฐานของปรัชญาการพัฒนาที่ยั่งยืนและส่งมอบผลประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่น ค้นพบข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.shotelsresorts.com หรือติดตามเราบน Facebook, Instagram, YouTube, LinkedIn
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ลลิตา สมบูรณ์สุข (ตา)
Senior Manager Corporate Marketing Communications
S Hotels & Resorts | Singha Estate PCL
โทร: 02 058-9888 ต่อ 320
อีเมล: lalita.s@shotelsresorts.com
Website: www.shotelsresorts.com
สุนิสา พลสิทธิ์
Communications Director, Thailand and International
Delivering Asia Communications
โทร. 087 690 1620
อีเมล sp@deliveringasia.com
Website: www.delivering.asia